ประเภทของเทรดเดอร์ (Type Of Trader) trader มีทั้งหมด 3 ประเภท หลักๆ คือ
1. วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน(Fundamental Analysis)
2. วิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
3. มั่ว,No Real Thinking Process
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นการวิเคราะห์ภาวะทางเศรษฐกิจ การเมืองและศึกษาผลประกอบการ เช่น อัตราการเติบโตในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังคาดคะเนแนวโน้มในอนาคตแล้วนำมาใช้วิเคราะห์ประเมินราคากับหลักทรัพย์นั้นๆ ว่าควรจะมีราคาเท่าไหร่
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน “มูลค่าที่แท้จริง” มีขั้นตอนย่อยๆ มี 3 ขั้นตอนคือ
1.1.วิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Analysis) วิเคราะห์เศรษฐกิจโดยเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต ทั้ง เศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลก
1.2.วิเคราะห์อุตสาหกรรม (Industry Analysis) วิเคราะห์อุตสาหกรรมเป็นการวิเคราะห์วงจรอุตสาหกรรม โดยวิเคราะห์จากสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรม ตลอดจนอนาคตของอุตสาหกรรมว่าจะมีการเติบโตอย่างไร
1.3.วิเคราะห์บริษัท (Company Analysis) วิเคราะห์บริษัทเป็นตัวสุดท้ายในการวิเคราะห์ โดยจะเน้นวิเคราะห์ประเภทของบริษัทและประเภทของหลักทรัพย์ โดยจะวิเคราะห์ในเชิง คุณภาพ(Qualitative Analysis) และเชิงปริมาณ(Quantitative Analysis)
ดังนั้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน จึงเหมาะกับวิเคราะห์ระยะปานกลางหรือระยะยาว
ข้อดี ของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคือ มีข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงจำนวนมากและสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ข้อเสีย จะต้องใช้จำนวนข้อมูลค่อนข้างมากถ้าในการวิเคราะห์เจอหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงก็ไม่สามารถใช้การซื้อขายได้และอื่นๆ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจังหวะซื้อต่างๆ
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) หลายคนคงได้ยินเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคมาอย่างหนาหู แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ถึงที่มาของการวิเคราะห์เทคนิค ว่าเป็นมาอย่างไร?
การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น เป็นวิธีที่มีใช้กันอย่างแพร่หลาย และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีแนวคิดหลัก 3 ข้อคือ
1. ราคาจะเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มเดิม จนกระทั่งแนวโน้มเดิมนั้นหมดจริงๆ
2. ราคาของหุ้นจะบอกเหตุการณ์ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น คือข่าวสารต่างๆที่ออกมาจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของราคา เป็นเหมือนเงาตามตัวเลยทีเดียว
3. พฤติกรรมของราคาหุ้นจะเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิมเป็นผลมาจากความกล้า ความกลัว ความผิดหวังของมนุษย์นั่นเอง เพราะความกล้า ความกลัว คามคาดหวังไม่ว่ายุคไหนต่อยุคไหน ความคิดนี้ก็ยังคงอยู่
ดังนั้น การวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็เปรียบเสมือนการวิเคราะห์จิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดแล้วก็นำค่าสถิติและความน่าจะเป็นเข้ามาช่วยวิเคราะห์ สาเหตุที่ต้องวิเคราะห์เพราะ
- ค่อนข้างแม่นยำเพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิคเปรียบเสมือนการวิเคราะห์จิตวิทยาคนในตลาด
- ไม่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ก่อนทำการเข้าลงทุนทำให้ง่ายและสะดวกในการตัดสินใจและนำคณิตศาสตร์เข้ามาคำนวณทำให้น่าเชื่อถือ หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในตลาด forex คือ ต้องวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็น เพื่อจะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาด forex ได้
สิ่งจำเป็นสำหรับนักวิเคราะห์ทางเทคนิคคือ
1. เรียนรู้และฝึกฝน
2. หยุดขาดทุน
3. ปกป้องกําไร ( protect your profit )
4. มีระเบียบวินัยในการลงทุน ( investment discipline )
- มั่ว,No Real Thinking Process ผู้คนกลุ่มนี้บางครั้งเราเรียกว่านักพนัน สาเหตุให้ตลาด forex มีผู้ที่ประสบความสำเร็จน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้คนทั้งหมดที่เข้ามาทำกำไร หลายคนกลายเป็นนักพนันโดยไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าจริงๆ หากว่าเราเข้าใจตัวเองเราจะวิเคราะห์ปัจจัยด้านพื้นฐานได้ดียิ่งขึ้น
ถ้ามีคนซื้อมาใช้สิทธิขาย ก็ต้องรับซื้อตามราคาที่ได้ตกลงไว้ จะบิดพลิ้วไม่ได้เลย และคนขายจะได้ค่าพรีเมียม เหมือนเป็นการจับเสือมือเปล่าโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่ก็ได้เงินเข้ากระเป๋าเป็นการตอบแทนแล้ว หากว่าการตลาดไม่เป็นใจกับผู้ขาย ผู้ซื้อจะได้กำไรแบบไม่สิ้นสุด เพราะว่าคนขายจะต้องจ่ายเงินอย่างเดียวเท่านั้น
คนซื้อจะต้องเป็นผู้ลงทุนของ forex ตั้งแต่แรก คือการชำระค่าพรีเมียมให้คนขายไปก่อนและคนซื้อต้องยอมรับการขาดทุนของค่าพรีเมียม ฉะนั้นขอให้นักลงทุน ทำความเข้าใจกันให้ดี เพราะว่าเครื่องมือเทรด forex นี้เป็นเครื่องมือที่จะทำกำไรให้ผู้เล่นได้มาก
เรียบเรียงโดยทีมงาน icafeforex.com
ขอสงวนสิทธิหากนำบทความไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ของท่าน กรุณาลิ้งค์กลับมายังหน้าต้นฉบับด้วยครับ…
เปิดบัญชีกับเรา
#xm – xmsignal.com
#FxPremax – http://bit.ly/2HDjGnU
#FxPrimus – http://bit.ly/2r5ffLK ประเภทบัญชี standard/ecn swap ฟรี : leverage 1:500
#FxPrimus – https://goo.gl/CzGEBe microswap ฟรี: leverage1:500
#VantageFx – http://bit.ly/2KgQ3dP ทองสเปรตต่ำ (swap free)
#HotForex – http://bit.ly/2Hwu0Ce